สัดส่วนยอดขาย ของ APPLE แบ่งเป็นอะไรบ้าง ในปี 2023

เรารู้จักกันดีว่า APPLE เป็นแบรนด์ด้านผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่า

ยอดขายของ Apple เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของบริษัทที่มีผลกระทบต่อตลาดและอุตสาหกรรมทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2023, Apple ยังคงเป็นผู้นำในการขายผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างประสิทธิภาพสูงในตลาดไอทีทั่วโลก

การเพิ่มขึ้นของยอดขาย

ในปี 2023, Apple ได้รับความสำเร็จอย่างมหาศาลในการเพิ่มยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เริ่มต้นจาก iPhone, iPad, Macbook, และ Apple Watch ซึ่งทั้งหมดได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่กว้างขวาง

การนวัตกรรมที่นำมาเพื่อลูกค้า

Apple มุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างความประทับใจ ในปี 2023, การพัฒนาทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

การขยายตลาดในภูมิภาค

Apple ได้ระบุเป้าหมายที่จะขยายตลาดในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะที่ตลาดไอทีที่กำลังเจริญเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ตลาดในทวีปเอเชียซึ่งรวมถึงที่ตั้งในประเทศไทย

ผลกระทบจากนโยบายการตลาด

นอกจากนี้, นโยบายการตลาดที่ Apple ได้นำเสนอในปี 2023 มีผลกระทบในการสร้างความน่าสนใจและความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงยอดขายที่มีผลต่อบวกในภาพรวมของบริษัท

ส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์ ของยอดขาย APPLE มาจาก

ยอดขายจาก iPhone คิดเป็น 52.3%
บริการ จาก APPLE (Apple Music , TV , Pay) คิดเป็น 22.2%
อุปกรณ์สวมใส่ (Apple Watch, Airpods) คิดเป็น 10.4%
Mac คิดเป็น 7.7%
iPad คิดเป็น 7.4%

ส่วนแบ่งการตลาดของยอดขายเมื่อเทียบแต่ละภูมิภาค

Americas : 41.9%
Europe : 24.4%
Greater China : 18.7%
Japan 7.8%
Asia Pacific 7.2%

รายได้รวม

ยอด $383B ( 13,329,740,500,000 บาท) เมื่อเทียบกับปีก่อนยอดขายลดลง 5%
กำไร $97.0B (3,379,480,000,000.00 บาท ) คิดเป็น 25.3%

วิเคราะห์จุดที่น่าสนใจ

หากสังเกตว่าตลาดของ Services หรือ Subscriptions กำลังมาแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แซง Wareable Products หรือ Apple Watch และ Aipods เป็นที่เรียบร้อยและสัดส่วนห่างกันเป็น 10% นั่นแปลว่า สิ่งที่สังเกตได้คือ การเติบโต ที่เพิ่มขึ้นของตลาด Services เป็นทิศทางที่โตยิ่งขึ้นและทำกำไร มหาศาลให้กับ Apple นั่นเอง